จากการศึกษาในเด็กและต่อมไร้ท่อหลายชิ้น รวมถึงการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism 20-30% ของวัยรุ่นชายประสบกับการขยายตัวของต่อมน้ํานมชั่วคราว (gynecomastia ในวัยรุ่น) และในกว่า 90% ของกรณีเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม อีก 10% ที่เหลืออาจพัฒนา gynecomastia อย่างต่อเนื่องเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น โรคอ้วน ความเครียดเรื้อรัง หรือการใช้ยาบางชนิด (เช่น สเตียรอยด์หรือยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท) โรคอ้วนที่เริ่มต้นในวัยเด็กและไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมมักจะดําเนินต่อไปในวัยผู้ใหญ่ และอาจเป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้ gynecomastia ในผู้ใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ตั้งข้อสังเกตว่าโรคอ้วนในวัยเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยเน้นย้ําถึงความสําคัญของการแทรกแซงอาหารและวิถีชีวิตตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว รวมถึง gynecomastia ความบกพร่องทางพันธุกรรมก็มีบทบาทสําคัญเช่นกัน โดยงานวิจัยบางชิ้นระบุว่ามากถึง 30% ของผู้ป่วย gynecomastia อาจมีองค์ประกอบทางครอบครัวหรือทางพันธุกรรม แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะยังไม่ได้ระบุยีนเฉพาะที่รับผิดชอบต่อ gynecomastia แต่ก็มีความเห็นพ้องต้องกันอย่างกว้างขวางว่าทั้งปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีส่วนเกี่ยวข้อง ประเด็นสําคัญประการหนึ่งคือโรคอ้วนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ gynecomastia มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในครอบครัวเช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมและปัจจัยด้านวิถีชีวิต

คุณสามารถแชทโดยตรงกับผู้ประสานงานภาษาอังกฤษของเรา

โปรดเข้าใจว่าเราอาจตอบกลับในช่วงเวลาทําการในเกาหลีใต้